กิจกรรมส่งเสริมการขายด้วยดวงจีน

แบรนด์ที่ชนะ

แบรนด์ที่ไม่ตกยุค

ตามหลักโหราศาสตร์จีน ในวิชาดาวเหิน (Flying Stars) มีการแบ่งยุคทั้งหมดออกเป็น 9 ยุค แต่ละยุคมีธาตุประจำยุค ธาตุประจำยุคเป็นตัวบอกเอกลักษณ์ของ Megatrend ที่แตกต่างกันในแต่ละยุค และแน่นอนว่า Megatrend ประจำยุคส่งผลต่อแนวโน้มการตัดสินใจของผู้บริโภคทั่วโลก ดังนั้นแบรนด์ที่ไม่ตกยุค คือ แบรนด์ที่หมั่นเติมธาตุประจำยุคผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของแบรนด์ ดังตารางนี้

จากตารางยุค จะเห็นได้ว่า พ.ศ. 2566 เป็นปีสิ้นสุดยุคดิน และ พ.ศ. 2567 เป็นปีเริ่มต้นยุคไฟ ปีสุดท้ายของยุคดินสื่อถึงการเสื่อมของพลังงานธาตุดินและสื่อถึงความรุ่งโรจน์ของพลังงานธาตุไฟ ขณะนี้การเติมกิจกรรมธาตุไฟให้กับแบรนด์จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการเตรียมแบรนด์ให้พร้อมเข้าสู่ยุคไฟ คำถามสำคัญ คือ “วันนี้แบรนด์ของคุณได้รับการเติมกิจกรรมธาตุไฟแล้วหรือยัง?”

ย้อนดูเทรนด์ผู้บริโภคในยุคดิน (พ.ศ. 2547-2566)

เมื่อกล่าวถึงธาตุดิน ให้เราลองนึกถึงลักษณะของผืนแผ่นดิน ก้อนหินขนาดใหญ่ ภูเขาที่ตั้งตระหง่าน ไม่เคลื่อนที่ เทรนด์ธาตุดิน ที่เกิดขึ้นในยุคดิน (พ.ศ. 2547-2566) ที่ผ่านมา และกำลังจะผ่านไป เพราะธาตุดินเสื่อมพลังแล้ว มีคุณสมบัติดังนี้

• ความมั่นคงดุจภูเขาหิน (Stability)
• ความน่าเชื่อถือ (Credibility)
• ความคงเส้นคงวา (Consistency)
• ความนิ่งดุจผืนแผ่นดิน (Slow and Steady)
• ความปลอดภัย (Security)

ในยุคธาตุดิน (พ.ศ. 2547-2566) ผู้คนทั่วโลกตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ โดยให้คุณค่าสูงสุดกับความคงเส้นคงวา เราจะเห็นได้ว่าแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในยุคดิน คือ แบรนด์ที่สามารถทำให้ผู้บริโภครู้สึก “ปลอดภัย” เมื่อได้สัมผัสกับความคงเส้นคงวาของแบรนด์ เกิดเป็นความน่าเชื่อถือ และนำไปสู่ความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ในท้ายที่สุด

ยุคดินจบแล้ว

อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านจากยุคดินเข้าสู่ยุคไฟ ส่งผลให้ “ความนิ่งดุจภูเขาหิน” ของยุคดินเสื่อมพลังงานลงไปเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันพลังงานธาตุดินกลับถูกแทนที่ด้วย “ความผันผวน” ของเทรนด์ใหม่ ๆ ที่มีความวูบวาบ ซึ่งความผันผวนและความวูบวาบนี้เป็นคุณสมบัติของธาตุไฟ ที่กำลังค่อย ๆ แทรกเข้ามา โดยธาตุไฟสะสมตัวรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ มาตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 2560 แล้ว ตัวอย่างที่ชัดเจน คือ ธุรกิจออนไลน์ซึ่งเป็นธุรกิจธาตุไฟมีแนวโน้มขยายตัวมากเป็นพิเศษมาตั้งแต่ พ.ศ. 2560 จนในที่สุดธาตุไฟจะกลายมาเป็นธาตุที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในโลกแทนที่ธาตุดินอย่างเป็นทางการในช่วงตรุษจีนของ พ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นปีแรกของยุคไฟ และจะสะสมต่อเนื่องไปอีกกว่า 20 ปี

การเข้าสู่ยุคไฟส่งผลโดยตรงให้กิจกรรมที่แบรนด์ควรใส่ใจมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งเป็นกิจกรรมธาตุไฟ ไม่ใช่กิจกรรมธาตุดินอีกต่อไป!

ความเสื่อมของแต่ละยุค มักจะเกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วง 5 ปีสุดท้ายของยุคแล้ว ดังที่เราจะเห็นได้ว่า ช่วง 5 ปีสุดท้ายของยุคดิน คือ ประมาณช่วง พ.ศ. 2562-2566 เป็นช่วงเวลาที่เทรนด์การบริโภคเปลี่ยนผ่านจากเทรนด์ที่เน้นความมั่นคง (ธาตุดิน) ไปสู่เทรนด์ที่เน้นความศรัทธา (ธาตุไฟ) โดยตัวอย่างที่ชัดเจนตัวอย่างหนึ่ง คือ สินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในตลาดกลุ่มพรีเมี่ยมมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มสูงขึ้นกว่าในอดีต ด้วยรสชาติและบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ แปลกใหม่ สามารถสร้างศรัทธาในกลุ่มผู้บริโภคได้ดี ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นคุณสมบัติของธาตุไฟ อีกทั้งตลาดสินค้า Luxury ที่เน้นการสร้างศรัทธาในเรื่องราวพร้อมส่งมอบพลังงานเชิงจิตวิญญาณแก่ลูกค้า ก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

ในยุคไฟ แม้จะต้องจ่ายแพงกว่า แต่ผู้บริโภคก็ยินดีที่จะจ่าย หากสินค้าหรือบริการนั้นสามารถสร้างแรงบันดาลใจและแรงศรัทธาในระดับ Spiritual Benefit ได้

เทรนด์ผู้บริโภคในยุคไฟ (พ.ศ. 2567-2586)

เมื่อกล่าวถึงธาตุไฟ ให้คุณลองนึกถึงเปลวไฟ อันเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ รู้สึกได้ แต่จับต้องไม่ได้ แม้เปลวไฟจะเป็นพลังงานแสงและพลังงานความร้อน ให้ความสว่างที่มองเห็นได้ ให้ความร้อนที่สัมผัสได้ แต่ไม่ใช่อะไรที่จะคงรูปและไม่สามารถจับต้องได้

เทรนด์ธาตุไฟ (พ.ศ. 2567-2586) ที่กำลังจะมาแรง สะสมต่อเนื่องไปอีก 20 ปี มีคุณสมบัติดังนี้

• ภาพลักษณ์ที่โดดเด่น (Identity)
• การสร้างแรงบันดาลใจ (Inspiration)
• การสร้างศรัทธาความเชื่อ (Passion and Spirituality)
• ความวูบวาบดุจเปลวไฟ (Impatience)
• การเปลี่ยนผ่าน (Transformation)

เติมธาตุไฟให้ธุรกิจด้วย Workshop ดวงจีน

จากคุณสมบัติของยุคไฟ (พ.ศ. 2567-2586) ข้างต้น การที่แบรนด์จะสามารถสร้างความประทับใจ และกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของธาตุไฟ ซึ่งกิจกรรมที่จะเติมธาตุไฟเพื่อช่วยให้แบรนด์ไม่ตกเทรนด์ได้นั้น เป็นกิจกรรมที่เน้นไปในด้านของ Spiritual Benefit ที่แบรนด์ส่งมอบให้แก่ลูกค้านั่นเอง

กิจกรรมธาตุไฟอย่างหนึ่งที่จะสร้างคุณค่าด้าน Spiritual Benefit ให้กับแบรนด์ของคุณได้อย่างรวดเร็ว ก็คือการที่แบรนด์ของคุณมีกิจกรรมดูดวงจีนเบื้องต้นให้กับลูกค้า เพราะจุดนี้จะทำให้คุณได้ข้อมูล Data เชิงลึกของลูกค้า โดยจากผังดวงคุณจะทราบว่าลูกค้าแต่ละคนเป็นคนธาตุอะไร มีความต้องการหรือแรงขับดัน (Motive) ในระดับจิตวิญญาณในรูปแบบใด ซึ่งหลักดวงจีนแบ่งบุคลิกภาพของคนออกเป็น 5 ธาตุหลัก ๆ ได้แก่ คนธาตุดิน คนธาตุไฟ คนธาตุไม้ คนธาตุน้ำ และ คนธาตุทอง

ดวงจีนเป็นเครื่องมือในการทำความเข้าใจในตัวตน เชื้อเชิญให้ลูกค้าได้ออกเดินทางภายใน สำรวจบุคลิกภาพที่แท้จริงของตัวเอง สู่การค้นพบสิ่งที่จักรวาลได้จัดสรรมาให้แต่กำเนิด เพื่อนำไปสู่การเติมแต่งอย่างเหมาะสมให้เกิดความสมดุลในชีวิตทุกมิติ

ดวงจีนจะทำให้คุณทราบด้วยว่าลูกค้าแต่ละคนจะต้องเสริมมงคลโดยใช้สินค้าที่มีสีสันและรูปทรงอย่างไร หรือรับบริการในรูปแบบใดแล้วจึงจะช่วยเสริมดวงชะตาของลูกค้า ดวงจีนจึงทำให้แบรนด์สามารถช่วยเลือกสรรสินค้าและบริการที่ตรงกับ Spiritual Benefit ของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การปิดการขายที่รวดเร็วมากขึ้น และมียอดต่อบิลที่สูงขึ้น

เมื่อคุณทำให้ลูกค้ารู้พื้นดวงจีนของตนเอง นั่นย่อมนำไปสู่การปิดการขายอย่างรวดเร็ว เพราะการดูดวงจีนจะทำให้ลูกค้ามีเป้าหมายในการซื้อและช่วยสร้างความต้องการในการซื้อที่ชัดเจน ว่าจะลูกค้าต้องใช้สินค้าหรือบริการอะไรในการเสริมมงคล

บริการจัดกิจกรรมเวิร์กชอป

ดวงจีนส่งเสริมการขาย

Spark Pack

กิจกรรมนี้เหมาะสำหรับ

• ลูกค้าของแบรนด์
• ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของคุณผ่านการจัดเวิร์กช้อปดวงจีนในส่วนของ Promotion และ Privilege หรืองานลูกค้าสัมพันธ์
• ร้านค้าและแบรนด์
• ทำให้ร้านค้าและแบรนด์มีความโด่นเด่นและเป็นที่น่าดึงดูดในยุคไฟ
• พนักงาน
• ทำให้พนักงานหรือที่ปรึกษาการขายมีทักษะเพิ่มเติมในการดูดวงจีนเบื้องต้นให้ลูกค้า นำไปสู่การเพิ่มยอดขาย

สิ่งที่คุณจะได้รับใน Spark Pack

• กิจกรรมเวิร์กชอปสร้างแรงบันดาลใจหัวข้อดวงจีน
• สำหรับส่งเสริมการขาย หรือ สร้างแรงบันดาลใจในหมู่บุคลากรในองค์กร

• เพื่อการดูแลอย่างทั่วถึง
• รับผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่เกิน 200 ท่าน

• ระยะเวลาเวิร์กชอป
• 1-3 ชั่วโมง รวมการซ้อมเวที



• เหมาะสำหรับองค์กรหรือธุรกิจที่
• ต้องการจัดกิจกรรม CRM ให้กับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการตลาด หรือ สร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์
• ต้องการจัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลให้กับบุคลากรในองค์กร
• ต้องการเสริมทักษะ Soft Skill สำหรับบุคลากรระดับปฏิบัติการ

ราคาเริ่มต้น 75,000 บาท
หรือขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและการตกลง
ต่างจังหวัดมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม